วันพฤหัสบดีที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

จุดไฟสร้างฝัน นักธุรกิจรุ่นใหม่

จุดไฟสร้างฝัน
นักธุรกิจรุ่นใหม่
........................................................................................................
โดย ดร.ชฎิล  นิ่มนวล
                อาทิตย์ที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๕๖ งานคืนสู่เหย้า ครบรอบ ๑๐ ปี AITM(Agro-Industrial Technology Management) ภาควิชาเทคโนโลยีอุตสาหกรรมเกษตร คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผมได้รับเชิญเข้าร่วมเสวนา “จุดไฟสร้างฝัน นักธุรกิจรุ่นใหม่” โดย ผศ.ดร.ปรารถนา  ปรารถนาดี หัวหน้าภาควิชา  ผศ.ดร.รวิพิมพ์ ฉวีสุข ผู้ดำเนินรายการ ผมได้รับเชิญ จาก อาจารย์ ดร.อัจฉรา เกษสุวรรณ  คุ้นเคยกันในฐานะเป็นคณะกรรมการสอบปกป้องวิทยานิพนธ์ หลักสูตรบริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิต  (บธ..)  สาขาวิชาบริหารธุรกิจ ภาคการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี  จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
                เสวนานี้ มีแขกรับเชิญ ๓ ท่าน เป็นเจ้าของกิจการที่ต่าง Generation กัน ผู้เข้าฟังเป็นนิสิตนักศึกษา ทั้งไทย และต่างชาติ ที่จบการศึกษาไปแล้ว รุ่นกำลังศึกษา รวมทั้งคณาอาจารย์ และผู้ที่สนใจ ผมเห็นว่ามีประโยชน์ จึงนำมาเล่าสู่กันฟัง เผื่อว่าใครจะมีประกายความฝันอยากก้าวสู่นักธุรกิจใหม่ จากนักธุรกิจรุ่นพี่ ที่มีความแตกต่าง และเหมือนกันอย่างไรนั้น ลองอ่านดูครับ...

ผมในฐานะเป็นผู้ประกอบการส่งออกพืชผักและผลไม้สดที่อยู่ในช่วง Baby Boomer ที่มีชีวิตเพื่อการทำงาน เคารพกฎเกณฑ์ กติกา อดทน ให้ความสำคัญกับผลงานแม้ว่าจะต้องใช้เวลานานกว่าจะประสบความสำเร็จ   อีกทั้งยังมีแนวคิดที่จะทำงานหนักเพื่อสร้างเนื้อสร้างตัว ทุ่มเทกับการทำงานและองค์กรมาก ไม่เปลี่ยนงานบ่อยเนื่องจาก มีความจงรักภักดีกับองค์กรอย่างมาก (ความหมายของคำว่า Baby Boomer)
หลายคนอาจจะมองว่าเป็นการขายฝัน หรือเพียงเพื่อเล่าประสบการณ์ ในแง่มุมที่เป็นบวก ขอบอกตรงนี้เลยว่า เส้นทางมิใช่เดินบนกลีบกุหลาบสวยงาม ราบรื่น กว่าจะถึงวันนี้ ต้องพานพบอุปสรรค์มากมาย ในแต่ละรูปแบบของธุรกิจ ปัจจัยเสี่ยง และปัญหาที่ต่างกรรมต่างวาระ ต้องอาศัยความพร้อมจริง ๆ( ความพร้อมประกอบด้วย ความสามารถ และความเต็มใจ ความสามารถประกอบด้วย ความรู้ ความเข้าใจ ทักษะ ประสบการณ์  และ ความเต็มใจ ประกอบด้วย  ความมั่นใจ ความมั่นคง ความผูกพัน แรงจูงในความสำเร็จ) และ คุณธรรม (องค์ประกอบของคุณธรรมที่สำคัญ คือ ความอดทน อดกลั้น มุ่งมั่น ขยัน ซื่อสัตย์ ประหยัด รับผิดชอบ เอาจริงเอาจัง)
ดังนั้นการเก็บเกี่ยวรายละเอียดของผู้เข้าฟัง แง่มุม ช่องว่าง ต้องใช้วิจารณญาณ ในการศึกษาให้ท่องแท้ ที่จะนำมาเป็นแนวทาง เป็นองค์ความรู้ใส่ในตัวเองให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะแต่ละช่วง แต่ละยุค แต่ละธุรกิจ และสินค้า ย่อมมีความแตกต่าง หลากหลายปัญหา อุปสรรค์ จนหลายคนท้อ ล้ม เลิก  ถึงอย่างไรก็ยังเหลือ คนที่ต่อสู้แก้ไขปัญหาและอุปสรรค์อย่างยิ่งยวด บนพื้นฐานขององค์ความรู้ที่ถูกบูรณาการอย่างประณีต ละเอียด รอบคอบ จนที่สุดหลุดพ้นเปาะปมแห่งอุปสรรค์ปัญหาเหล่านั้น  เราลองมาดูซิว่า คนเหล่านั้น มีปัจจัยสู่ความสำเร็จ (Key Success Factors) คล้ายกัน ที่พอจะนำมาเล่าสู่กันฟัง เพื่อเป็นแนวทางสร้างฝันการทำธุรกิจใหม่ได้ไม่มากก็น้อยครับ...
        จุดเริ่มต้นของผมอาจจะคล้ายกับอีกหลายคน ที่เริ่มต้นจากครอบเป็นคนต่างจังหวัด มีพี่น้องหลายคน พ่อแม่ไม่มีมรดก ทำสวนและค้าขาย หาเงินส่งให้ลูกเพื่อให้มีการศึกษาเป็นมรดกติดตัว การที่มีครอบครัวใหญ่ จึงจำเป็นต้องแสวงหารายได้ เพื่อเลี้ยงดูให้ครอบครัวอยู่รอด เรียกว่าปากกัดเท้าถีบ ขยัน อดออม อดทน ซื่อสัตย์ รับผิดชอบ เสมอภาคและยุติธรรม ที่มีกรอบของวินัยที่ทุกคนยึดปฏิบัติร่วมกันโดยที่พ่อเป็นผู้คุมกรอบวินัย หรือเรียกง่าย ๆ ว่า “กฎเหล็ก” นั่นเองครับ นี่เองเป็นปฐมบทให้นิสัยถูกหล่อหลอมมาจากพื้นฐานของครอบครัว ที่ซึมซับ และถูกนำมาใช้ในชีวิตประจำวันอย่างไม่รู้ตัว
ถามถึงจุดประกายเริ่มต้นของการทำธุรกิจ เมื่อทำงานประจำไปได้ระยะหนึ่ง งานที่ทำ เงินเดือนที่ได้รับกลับไม่ใช่คำตอบที่กำลังค้นหา รู้แต่เพียงว่า รูปแบบของงานที่ทำไม่ใช้ตัวตนของเรา ดังนั้นการแสวงหาความต้องการของตัวเองจึงเป็นจุดเริ่มต้นของการค้นหา ความต้องการมีอิสระทั้งแนวความคิด การทำงานที่ต้องการคำตอบที่มากกว่างานที่ทำปัจจุบัน คำตอบสุดท้ายของงานคืออะไร มิใช่แค่เพียงทำไปวัน ๆ แล้วกลับบ้าน ไม่สมกับความสามารถในตัวเราที่มีอยู่ นี่เองจึงเป็นสาเหตุสำคัญในการมองหาช่องทางที่จะโลดแล่นบนถนนของธุรกิจที่ปราศจากกรอบกติกา ท้าทายความสามารถ และไม่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่คนอื่นกำหนด แต่เราจะเป็นผู้กำหนดตัวเราเอง

เริ่มต้นมองหาธุรกิจที่ รัก ชอบ ถนัด คุ้นเคย เกี่ยวข้อง ใกล้ตัว จนรู้สึกได้ว่าซึมซับ เพราะมองเห็นโอกาสได้ง่ายกว่าธุรกิจไกลจากตัวเอง ยิ่งมองลึกยิ่งพบว่าใครคือผู้บริโภค บริโภคอะไร กลุ่มผู้บริโภคอยู่ที่ไหน จากนั้นจึงแสวงหาองค์ประกอบของความพร้อมทันที ค้นหาทั้งทางลึกและกว้าง สนใจอย่างจริงจัง เริ่มเข้าอบรม สอบถาม สังเกต อ่านงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง อย่างเมามัน ยิ่งค้น ยิ่งสนุก ยิ่งอ่านยิ่งพบสิ่งที่ตัวเองขาด ยิ่งสังเกตยิ่งเห็น และได้รับข้อมูลเพิ่มเติม สืบค้นงานวิจัยยิ่งเกิดความมั่นใจ เป็นมูลเหตุของการกล้าคิดกล้าทำ กล้าตัดสินใจมากขึ้น
การแสวงหาสินค้า เริ่มง่าย ๆ ดูสินค้าที่ตัวเองเห็นมากมายในท้องตลาด เกิดความคิดว่าจะทำอย่างไรให้มีคุณภาพมากกว่าที่มีอยู่ จะสร้างความแตกต่าง แตกต่าง และแตกต่างอย่างไรจากสินค้าชนิดเดียวกัน ค้นหาความต้องการของผู้บริโภคที่แท้จริงจากงานวิจัย ที่สามารถสืบค้นจาก Internet ดูมันทั้งโลก ดูทุกวัน ดูทุกเรื่องที่เกี่ยวข้อง
เริ่มเห็น เข้าใจ  และเริ่มใส่ใจกับความละเอียดประณีตที่จะใส่ลงไปในตัวสินค้า และบริการ เพื่อสร้างความแตกต่างในแนวทางงานวิจัยที่สนับสนุน สร้างกระแสด้วยคุณค่าของตัวสินค้าเอง ให้เกิดการบอกต่อ สร้างความต่อเนื่องด้วยการเชื่อมโยงการผลิตร่วมกันของ Supplier พัฒนาต่อยอดร่วมกันอย่างเปิดใจและจริงใจ เพื่อสร้างความรู้สึกพึงพอใจให้ ทีมงาน ผู้ผลิต และผู้บริโภค กว่าที่เขาเคยได้รับ คุ้มค่า ในราคาเป็นธรรม
สร้างความรู้สึกร่วมกันเพื่อให้เขาร่วมปกป้อง ส่งเสริม สนับสนุน สร้าง Connections สร้างระบบการตลาดแบบ ๓๖๐ องศาที่เกิดในทุกช่องทาง และทุกภาคส่วน ทั้งในและนอกองค์กร พัฒนาชิ้นงาน การบริหาร การควบคุม ดูแล อย่างใส่ใจ และอดทนรอความสำเร็จแม้ว่าจะนานแค่ไหนก็จะรอ
ในทิศทางที่แตกต่าง เป็นที่ปรึกษาของผู้บริโภค ไม่ใช่เพียงแค่นักขายเท่านั้น ให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางขององค์กร และเดินร่วมกัน เหล่านี้ถูกสร้างบนพื้นฐานของการมีส่วนร่วมอย่างจริงใจ ให้ทุกคนที่เกี่ยวข้อง เริ่มตั้งแต่ เกษตรกร ผู้รวบรวม องค์กร คนในองค์กร บริษัทขนส่ง ภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ผู้รับสินค้าปลายทาง จนถึงมือผู้บริโภคร่วมเดินไปพร้อมกันอย่างมั่นคงยั่งยืน นี่คือวิธีการ ตรรกะ และปรัชญาง่าย ๆในการทำธุรกิจของผมครับ...                                         
คุณ ชิตพงษ์ วีรวรรณภิญโญ ผู้นำ จำหน่ายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ประเภท Memory สำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ทุกประเภท ตัวแทนของ Generation X   พฤติกรรมชอบอะไรง่าย ๆ ไม่ต้องเป็นทางการ ให้ความสำคัญกับเรื่องความสมดุลระหว่างงานกับครอบครัว (Work – life balance)  มีแนวคิดและการทำงานในลักษณะรู้ทุกอย่างทำทุกอย่างได้เพียงลำพังไม่พึ่งพาใคร มีความคิดเปิดกว้าง พร้อมรับฟังข้อติติงเพื่อการปรับปรุงและพัฒนาตนเอง(ความหมายของ Generation X )
ชิตพงษ์  เริ่มต้นที่ มีการศึกษาดี มีตำแหน่งหน้าที่การงานดี มีเงินเดือนพอตัว แต่กลับค้นพบว่างานนี้ไม่ใช่ตัวตน จากนั้นจึงแสวงหาความรู้จากงานที่ตัวเองทำเพื่อเก็บสะสมข้อมูล ความรู้ ประสบการณ์ และเริ่มต้นทำธุรกิจที่ตัวเองถนัดอย่างระมัดระวัง รอบคอบ เริ่มจากธุรกิจเล็กใช้คนเพียง สอง สามคน ซื้อมาขายไปได้ระยะหนึ่ง จึงเกิดทักษะ และความชำนาญเริ่มขยายกิจการ เพิ่มขึ้น จนในที่สุดออกมาดำเนินธุรกิจอย่างเต็มตัว
บุคลิก ส่วนตัวของ ชิตพงษ์  มุ่งมั่น ขยัน และเอาจริงเอาจังกับงานที่ทำ จึงก่อให้เกิดนิสัยที่เมื่อทำสิ่งใดแล้วต้องทำให้สำเร็จ และดีที่สุด  เป็นปัจจัยที่ทำให้บริษัท มุ่งเน้น ที่การให้บริการ ก่อนและหลังการขาย ในทุกระดับให้เกิดความแตกต่างจากคนอื่น ในที่สุดเป็นที่ยอมรับของแวดวงไอทีในเมืองไทย เป็นผู้นำในการจัดจำหน่าย อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ประเภท Memory Module (RAM) สำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ทุกประเภทตั้งแต่ High-end server, Standard server, Workstation, Desktop, Notebook, Printer และ Router ในประเทศไทย
ชิตพงษ์ มุ่งมั่นในการขายสินค้าและบริการที่แตกต่างจากคนอื่นอย่างเห็นได้ชัด และมีแนวคิดในการตอบสนองผู้บริโภคในเรื่องของคุณภาพสินค้าในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับธรรมดา จนถึงระดับสูงสุดโดยใช้บริการเป็นตัวเชื่อมโยงความภักดีของผู้บริโภคให้กลับมาซื้อซ้ำ และบอกต่อ นี่จึงเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ธุรกิจของชิตพงษ์ เติมโตอย่างมั่นคงและรวดเร็ว

วรวิทย์ ศิริพากย์ เจ้าของ  Panpuri organic spa (ปัญญ์ปุริ ออร์กานิค สปา) เป็นคนหนุ่มรุ่นใหม่วัย  Generation Y   ที่โตมาพร้อมกับคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี เป็นวัยที่เพิ่งเริ่มเข้าสู่วัยทำงาน มีลักษณะนิสัยชอบแสดงออก มีความเป็นตัวของตัวเองสูง ไม่ชอบอยู่ในกรอบและไม่ชอบเงื่อนไข ต้องการความชัดเจนในการทำงานว่าสิ่งที่ทำมีผลต่อตนเอง และต่อหน่วยงานอย่างไร  อีกทั้งยังมีความสามารถในการทำงานที่เกี่ยวกับการติดต่อสื่อสาร และยังสามารถทำงานหลาย ๆ อย่างได้ในเวลาเดียวกัน(ความหมายของ Generation Y)
วรวิทย์ เริ่มต้นคล้ายกัน ด้วยครอบครัวมีมีพี่น้องหลายคน พ่อรับราชการ แม่ขายของ ส่งลูกเรียน วรวิทย์อาจจะแตกต่างจากคนอื่น เป็นคนขยันอ่านหนังสือเป็นคนเรียนเก่ง ค้นหาตัวเองพบว่าสิ่งที่ตัวเองมีอยู่มากมายและอยากค้นหาในโลกกว้างจึงสอบชิงทุน ไปเรียนต่อที่แคนนาดา กลับมาทำงาน และกลับไปเรียนต่อที่อิตาลี ด้านบริหารสินค้าฟุ่มเฟือย จุดหักเหของชีวิต เมื่อเกิดเหตุการณ์  9/11 และพบว่า งานที่ทำ และเงินที่ได้รับไม่ใช่คำตอบ ชีวิตคนเราสั้นเกินไปที่จะทำแบบเดิม ๆ จึงเริ่มมองหาธุรกิจที่ตัวเองชอบ มีฐานความรู้ ผนวกกับงานวิจัย จึงเป็นจุดเริ่มต้นของธุรกิจปัจจุบัน
ปัจจัยสู่ความสำเร็จ วรวิทย์ อธิบายว่า
ต้องการนำเสนอสินค้าที่เป็นเอกลักษณ์ ของกลิ่นอายของความเป็นตะวันออกมาเป็น “เสน่ห์” ของสินค้า (จุดเด่น และแตกต่าง) และประยุกต์ต่อยอด เป็น อโรม่าเธอราปี (Aroma therapy) ในแบบที่เป็นสไตล์ของตัวเอง และวางขายเฉพาะในห้างระดับบนเท่านั้นทั้งในประเทศและต่างประเทศเท่านั้น
แนวคิดในการสร้าง Connection ที่ดีกับโรงแรมระดับ5ดาว ทำให้สามารถต่อยอดขยายยอดขายไปยังสาขาในต่างประเทศของโรงแรมนั้น ๆได้ทั่วโลก และยังรับผลิตให้โรงแรมเหล่านั้น  และโรงแรมเหล่านั้นยังนำผลิตภัณฑ์ของเขามาใช้ เป็นการco-branding แบรนดของโรงแรมที่มีอายุยาวนานเป็นร้อยปี มีส่วนสำคัญอย่างมากในการผลักดัน แบรนดน้องใหม่อย่างปัญญ์ปุริ ให้เติมโตอย่างรวดเร็ว
ใช้วิธีการสื่อสารถึงลูกค้าด้วยกลยุทธ์ “Word of Mouth” ด้วยรูปแบบของสินค้าทำให้ ปัญญ์ปุริ ที่ไม่สามารถทำการตลาดแบบ above the line ได้มากนัก การสื่อแบบปากต่อปากเป็นวิธีการหนึ่งที่ถูกนำมาใช้ตั้งแต่แรก จนถึงปัจจุบัน
              วิธีการทำตลาด ไม่ยึดโมเดลของใครคนใดคนหนึ่งในการทำตลาด  แต่ใช้การมองจากมุมผู้บริโภค และมองจากตัวเองที่ใช้สินค้าเหล่านี้อย่างเหนียวแน่น เพราะเวลาที่ซื้อของ พยายามมองแบรนดแปลกๆ ที่มีดีไซน์ Product ซึ่งคนทั่วไปอาจจะยังไม่รู้จัก แต่มีคนกลุ่มหนึ่งรู้จักดีแล้ว มองว่าถ้าเป็นเรา จะรับสื่อจากด้านไหน สื่ออะไรที่เราเชื่อ อะไรที่ไม่เชื่อ จึงเกิดแนวคิดที่จะหาวิธีการพุดคุยกับกลุ่มลูกค้าเฉพาะเท่านั้น  และที่สำคัญ เหล่านี้มันเป็นทั้งศาสตร์และศิลปะ ที่ทำอย่างไรให้คนมีอารมณ์ร่วมไปกับสิ่งที่เราสื่อได้
                แนวคิดของการสร้างการบริการที่แตกต่าง วรวิทย์ มองว่า เรากำลังขายความรู้สึก ต้องการให้ลูกค้าได้ความรู้สึกที่ดีๆกลับไปด้วย ไม่ใช่ได้แต่ตัวสินค้าไปเท่านั้น ดังนั้น เขาจะขายบริการ ก่อน  แล้วการซื้อสินค้าจะเกิดขึ้นตามมา ไม่ใช่เน้นการขายสินค้าก่อน แล้วค่อยเกิดการบริการขึ้นภายหลัง
               เน้นสินค้าด้วยการดีไซน์ ที่ทำให้ทุกคนหันมามองอย่างสนใจ โดยใส่ใจ และให้ความสำคัญตั้งแต่ แผ่นโบชัวร์ที่มาเรื่องราวอันเป็นประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ โดยเริ่มจากจากสมุดข่อยโบราณ ลายไทยอันอ่อนช้อย และดอกบัวสีม่วงที่ประกอบสื่อถึงความเป็นเอเชีย การดีไซน์ถุงกระดาษ และ packaging ต่างๆ แม้แต่สี ที่ดึงเข้ามาสีสันในการตกแต่งร้านแต่ละแห่งก็ล้วนแล้วแต่มีเรื่องราวที่มีความหมายทั้งสิ้น  
การวาง Positioning ทางการตลาดของปัญญ์ปุริ ตั้งไว้ในระดับที่สูง จึงทำให้ไม่มีคู่แข่งในประเทศ ดังนั้น Benchmark ของการพัฒนาสินค้าจึงมีการแข่งขันกับสินค้าในระดับสากลเท่านั้น ทำให้ราคาสินค้าสูงขึ้นตามไปด้วย
กลุ่มเป้าหมายของ ปัญญ์ปุริ ในตลาดขายปลีก มุ่งที่ลูกค้าที่ต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีความเป็น Exclusive ต้องการใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อความผ่อนคลายหลังจากเหน็ดเหนื่อยจากการทำงาน ซึ่งเป็นคนกลุ่มนักธุรกิจ ผู้บริหาร ผู้จัดการ ที่ล้วนแต่ทำงานหนักและมีความเคร่งเครียดสูง แต่มีรายได้เพียงพอในการซื้อ
ม่งมั่นสร้างสินค้าให้มีจุดเด่นและมีดีไซน์ที่แตกต่าง ในบันจุภัณฑ์ที่สวยงามสะดุดตา ผ่านกระบวนการผลิตที่ประณีตพิถีพิถัน
 เมื่อมีเป้าหมายชัดเจนว่าจะเป็นแบรนด์หนึ่งของโลก รูปลักษณ์บรรจุภัณฑ์ที่ดูแปลกตา แม้ว่าวิธีการนี้จะเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและทำให้สินค้าใหม่ขายได้เฉพาะกลุ่มผุ้บริโภคที่เล็กลงไปอีก แต่เขามั่นใจว่าวันนี้ เดินมาถูกทาง และจะต้องยอมทำงานหนักขึ้น เพื่อความเติมโตในยุทธ์จักรของการแข่งขันในระดับโลกในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้อย่างแน่นอน
                บทสรุปจากการเสวนาในครั้งนี้ ผมเห็นว่านักธุรกิจ ทั้งสามรุ่น มีแกนหลักที่เหมือนและล้ายคลึงกัน โดย
เริ่มต้นจากนิสัย ทีมีความมุ่งมั่น ขยันอดทน ค้นหาสินค้าและบริการที่เยี่ยมยอด มี หัวใจบริการ ค้นหาองค์ความรู้เพื่อพัฒนาต่อยอดสินค้าและบริการอย่างต่อเนื่อง ใช้เทคโนโลยีสื่อสารอย่างชาญฉลาดและคุ้มค่าให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อตนเอง สินค้า บริการ องค์กร และผู้บริโภค ใส่หัวใจบริการในงานที่ทำ สร้างความสัมพันธ์เพื่อสร้างเครือข่ายธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคง

                ประกายฝันที่เกิดขึ้น จะสารต่อให้ไปสู่ความสำเร็จ ไม่ได้อาศัยพรสวรรค์ แต่อยู่ที่พรแสวง เฉกเช่นการเตรียมตัวเพื่อการแข่งขันกีฬา หากต้องการเอาชนะในกีฬาโอลิมปิก ต้องเตรียมตัว ทุ่มเท อดทน ฝึกซ้อมอย่างหนักในระดับโอลิมปิก  แต่หากจะแข่งขันและเอาชนะแค่ เอเชี่ยนเกม การเตรียมตัว ทุ่มเท อดทน ฝึกซ้อมก็จะอยู่แค่ในระดับเอเชี่ยนเกม หรือหากจะเตรียมตัวฝึกซ้อม เพื่อแข่งขันในระดับซีเกม ระดับกีฬาแห่งชาติ กีฬาจังหวัด กีฬาโรงเรียน ย่อมมีความแตกต่างในการฝึกซ้อม ทุ่มเท อดทนกันอย่างสิ้นเชิง ตั้งเป้าไว้ให้ไกล มุ่งมั่นไปให้ถึง แล้วประกายฝันนั้นจะเป็นจริง ดังที่นักธุรกิจรุ่นใหม่ อย่าง วรวิทย์ ศิริพากย์ ได้กล่าวไว้ในการเสวนาครั้งนี้...

..........................................................................................................

จุดไฟสร้างฝัน นักธุรกิจรุ่นใหม่

จุดไฟสร้างฝัน
นักธุรกิจรุ่นใหม่
................................................................................
โดย ดร.ชฎิล  นิ่มนวล
                อาทิตย์ที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๕๖ งานคืนสู่เหย้า ครบรอบ ๑๐ ปี AITM(Agro-Industrial Technology Management) ภาควิชาเทคโนโลยีอุตสาหกรรมเกษตร คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผมได้รับเชิญเข้าร่วมเสวนา “จุดไฟสร้างฝัน นักธุรกิจรุ่นใหม่” โดย ผศ.ดร.ปรารถนา  ปรารถนาดี หัวหน้าภาควิชา  ผศ.ดร.รวิพิมพ์ ฉวีสุข ผู้ดำเนินรายการ ผมได้รับเชิญ จาก อาจารย์ ดร.อัจฉรา เกษสุวรรณ  คุ้นเคยกันในฐานะเป็นคณะกรรมการสอบปกป้องวิทยานิพนธ์ หลักสูตรบริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิต  (บธ..)  สาขาวิชาบริหารธุรกิจ ภาคการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี  จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
                เสวนานี้ มีแขกรับเชิญ ๓ ท่าน เป็นเจ้าของกิจการที่ต่าง Generation กัน ผู้เข้าฟังเป็นนิสิตนักศึกษา ทั้งไทย และต่างชาติ ที่จบการศึกษาไปแล้ว รุ่นกำลังศึกษา รวมทั้งคณาอาจารย์ และผู้ที่สนใจ ผมเห็นว่ามีประโยชน์ จึงนำมาเล่าสู่กันฟัง เผื่อว่าใครจะมีประกายความฝันอยากก้าวสู่นักธุรกิจใหม่ จากนักธุรกิจรุ่นพี่ ที่มีความแตกต่าง และเหมือนกันอย่างไรนั้น ลองอ่านดูครับ...
ผมในฐานะเป็นผู้ประกอบการส่งออกพืชผักและผลไม้สดที่อยู่ในช่วง Baby Boomer ที่มีชีวิตเพื่อการทำงาน เคารพกฎเกณฑ์ กติกา อดทน ให้ความสำคัญกับผลงานแม้ว่าจะต้องใช้เวลานานกว่าจะประสบความสำเร็จ   อีกทั้งยังมีแนวคิดที่จะทำงานหนักเพื่อสร้างเนื้อสร้างตัว ทุ่มเทกับการทำงานและองค์กรมาก ไม่เปลี่ยนงานบ่อยเนื่องจาก มีความจงรักภักดีกับองค์กรอย่างมาก (ความหมายของคำว่า Baby Boomer)
หลายคนอาจจะมองว่าเป็นการขายฝัน หรือเพียงเพื่อเล่าประสบการณ์ ในแง่มุมที่เป็นบวก ขอบอกตรงนี้เลยว่า เส้นทางมิใช่เดินบนกลีบกุหลาบสวยงาม ราบรื่น กว่าจะถึงวันนี้ ต้องพานพบอุปสรรค์มากมาย ในแต่ละรูปแบบของธุรกิจ ปัจจัยเสี่ยง และปัญหาที่ต่างกรรมต่างวาระ ต้องอาศัยความพร้อมจริง ๆ( ความพร้อมประกอบด้วย ความสามารถ และความเต็มใจ ความสามารถประกอบด้วย ความรู้ ความเข้าใจ ทักษะ ประสบการณ์  และ ความเต็มใจ ประกอบด้วย  ความมั่นใจ ความมั่นคง ความผูกพัน แรงจูงในความสำเร็จ) และ คุณธรรม (องค์ประกอบของคุณธรรมที่สำคัญ คือ ความอดทน อดกลั้น มุ่งมั่น ขยัน ซื่อสัตย์ ประหยัด รับผิดชอบ เอาจริงเอาจัง)
ดังนั้นการเก็บเกี่ยวรายละเอียดของผู้เข้าฟัง แง่มุม ช่องว่าง ต้องใช้วิจารณญาณ ในการศึกษาให้ท่องแท้ ที่จะนำมาเป็นแนวทาง เป็นองค์ความรู้ใส่ในตัวเองให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะแต่ละช่วง แต่ละยุค แต่ละธุรกิจ และสินค้า ย่อมมีความแตกต่าง หลากหลายปัญหา อุปสรรค์ จนหลายคนท้อ ล้ม เลิก  ถึงอย่างไรก็ยังเหลือ คนที่ต่อสู้แก้ไขปัญหาและอุปสรรค์อย่างยิ่งยวด บนพื้นฐานขององค์ความรู้ที่ถูกบูรณาการอย่างประณีต ละเอียด รอบคอบ จนที่สุดหลุดพ้นเปาะปมแห่งอุปสรรค์ปัญหาเหล่านั้น  เราลองมาดูซิว่า คนเหล่านั้น มีปัจจัยสู่ความสำเร็จ (Key Success Factors) คล้ายกัน ที่พอจะนำมาเล่าสู่กันฟัง เพื่อเป็นแนวทางสร้างฝันการทำธุรกิจใหม่ได้ไม่มากก็น้อยครับ...
        จุดเริ่มต้นของผมอาจจะคล้ายกับอีกหลายคน ที่เริ่มต้นจากครอบเป็นคนต่างจังหวัด มีพี่น้องหลายคน พ่อแม่ไม่มีมรดก ทำสวนและค้าขาย หาเงินส่งให้ลูกเพื่อให้มีการศึกษาเป็นมรดกติดตัว การที่มีครอบครัวใหญ่ จึงจำเป็นต้องแสวงหารายได้ เพื่อเลี้ยงดูให้ครอบครัวอยู่รอด เรียกว่าปากกัดเท้าถีบ ขยัน อดออม อดทน ซื่อสัตย์ รับผิดชอบ เสมอภาคและยุติธรรม ที่มีกรอบของวินัยที่ทุกคนยึดปฏิบัติร่วมกันโดยที่พ่อเป็นผู้คุมกรอบวินัย หรือเรียกง่าย ๆ ว่า “กฎเหล็ก” นั่นเองครับ นี่เองเป็นปฐมบทให้นิสัยถูกหล่อหลอมมาจากพื้นฐานของครอบครัว ที่ซึมซับ และถูกนำมาใช้ในชีวิตประจำวันอย่างไม่รู้ตัว
ถามถึงจุดประกายเริ่มต้นของการทำธุรกิจ เมื่อทำงานประจำไปได้ระยะหนึ่ง งานที่ทำ เงินเดือนที่ได้รับกลับไม่ใช่คำตอบที่กำลังค้นหา รู้แต่เพียงว่า รูปแบบของงานที่ทำไม่ใช้ตัวตนของเรา ดังนั้นการแสวงหาความต้องการของตัวเองจึงเป็นจุดเริ่มต้นของการค้นหา ความต้องการมีอิสระทั้งแนวความคิด การทำงานที่ต้องการคำตอบที่มากกว่างานที่ทำปัจจุบัน คำตอบสุดท้ายของงานคืออะไร มิใช่แค่เพียงทำไปวัน ๆ แล้วกลับบ้าน ไม่สมกับความสามารถในตัวเราที่มีอยู่ นี่เองจึงเป็นสาเหตุสำคัญในการมองหาช่องทางที่จะโลดแล่นบนถนนของธุรกิจที่ปราศจากกรอบกติกา ท้าทายความสามารถ และไม่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่คนอื่นกำหนด แต่เราจะเป็นผู้กำหนดตัวเราเอง
เริ่มต้นมองหาธุรกิจที่ รัก ชอบ ถนัด คุ้นเคย เกี่ยวข้อง ใกล้ตัว จนรู้สึกได้ว่าซึมซับ เพราะมองเห็นโอกาสได้ง่ายกว่าธุรกิจไกลจากตัวเอง ยิ่งมองลึกยิ่งพบว่าใครคือผู้บริโภค บริโภคอะไร กลุ่มผู้บริโภคอยู่ที่ไหน จากนั้นจึงแสวงหาองค์ประกอบของความพร้อมทันที ค้นหาทั้งทางลึกและกว้าง สนใจอย่างจริงจัง เริ่มเข้าอบรม สอบถาม สังเกต อ่านงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง อย่างเมามัน ยิ่งค้น ยิ่งสนุก ยิ่งอ่านยิ่งพบสิ่งที่ตัวเองขาด ยิ่งสังเกตยิ่งเห็น และได้รับข้อมูลเพิ่มเติม สืบค้นงานวิจัยยิ่งเกิดความมั่นใจ เป็นมูลเหตุของการกล้าคิดกล้าทำ กล้าตัดสินใจมากขึ้น
การแสวงหาสินค้า เริ่มง่าย ๆ ดูสินค้าที่ตัวเองเห็นมากมายในท้องตลาด เกิดความคิดว่าจะทำอย่างไรให้มีคุณภาพมากกว่าที่มีอยู่ จะสร้างความแตกต่าง แตกต่าง และแตกต่างอย่างไรจากสินค้าชนิดเดียวกัน ค้นหาความต้องการของผู้บริโภคที่แท้จริงจากงานวิจัย ที่สามารถสืบค้นจาก Internet ดูมันทั้งโลก ดูทุกวัน ดูทุกเรื่องที่เกี่ยวข้อง
เริ่มเห็น เข้าใจ  และเริ่มใส่ใจกับความละเอียดประณีตที่จะใส่ลงไปในตัวสินค้า และบริการ เพื่อสร้างความแตกต่างในแนวทางงานวิจัยที่สนับสนุน สร้างกระแสด้วยคุณค่าของตัวสินค้าเอง ให้เกิดการบอกต่อ สร้างความต่อเนื่องด้วยการเชื่อมโยงการผลิตร่วมกันของ Supplier พัฒนาต่อยอดร่วมกันอย่างเปิดใจและจริงใจ เพื่อสร้างความรู้สึกพึงพอใจให้ ทีมงาน ผู้ผลิต และผู้บริโภค กว่าที่เขาเคยได้รับ คุ้มค่า ในราคาเป็นธรรม
สร้างความรู้สึกร่วมกันเพื่อให้เขาร่วมปกป้อง ส่งเสริม สนับสนุน สร้าง Connections สร้างระบบการตลาดแบบ ๓๖๐ องศาที่เกิดในทุกช่องทาง และทุกภาคส่วน ทั้งในและนอกองค์กร พัฒนาชิ้นงาน การบริหาร การควบคุม ดูแล อย่างใส่ใจ และอดทนรอความสำเร็จแม้ว่าจะนานแค่ไหนก็จะรอ
ในทิศทางที่แตกต่าง เป็นที่ปรึกษาของผู้บริโภค ไม่ใช่เพียงแค่นักขายเท่านั้น ให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางขององค์กร และเดินร่วมกัน เหล่านี้ถูกสร้างบนพื้นฐานของการมีส่วนร่วมอย่างจริงใจ ให้ทุกคนที่เกี่ยวข้อง เริ่มตั้งแต่ เกษตรกร ผู้รวบรวม องค์กร คนในองค์กร บริษัทขนส่ง ภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ผู้รับสินค้าปลายทาง จนถึงมือผู้บริโภคร่วมเดินไปพร้อมกันอย่างมั่นคงยั่งยืน นี่คือวิธีการ ตรรกะ และปรัชญาง่าย ๆในการทำธุรกิจของผมครับ...                                         
คุณ ชิตพงษ์ วีรวรรณภิญโญ ผู้นำ จำหน่ายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ประเภท Memory สำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ทุกประเภท ตัวแทนของ Generation X   พฤติกรรมชอบอะไรง่าย ๆ ไม่ต้องเป็นทางการ ให้ความสำคัญกับเรื่องความสมดุลระหว่างงานกับครอบครัว (Work – life balance)  มีแนวคิดและการทำงานในลักษณะรู้ทุกอย่างทำทุกอย่างได้เพียงลำพังไม่พึ่งพาใคร มีความคิดเปิดกว้าง พร้อมรับฟังข้อติติงเพื่อการปรับปรุงและพัฒนาตนเอง(ความหมายของ Generation X )
ชิตพงษ์  เริ่มต้นที่ มีการศึกษาดี มีตำแหน่งหน้าที่การงานดี มีเงินเดือนพอตัว แต่กลับค้นพบว่างานนี้ไม่ใช่ตัวตน จากนั้นจึงแสวงหาความรู้จากงานที่ตัวเองทำเพื่อเก็บสะสมข้อมูล ความรู้ ประสบการณ์ และเริ่มต้นทำธุรกิจที่ตัวเองถนัดอย่างระมัดระวัง รอบคอบ เริ่มจากธุรกิจเล็กใช้คนเพียง สอง สามคน ซื้อมาขายไปได้ระยะหนึ่ง จึงเกิดทักษะ และความชำนาญเริ่มขยายกิจการ เพิ่มขึ้น จนในที่สุดออกมาดำเนินธุรกิจอย่างเต็มตัว
บุคลิก ส่วนตัวของ ชิตพงษ์  มุ่งมั่น ขยัน และเอาจริงเอาจังกับงานที่ทำ จึงก่อให้เกิดนิสัยที่เมื่อทำสิ่งใดแล้วต้องทำให้สำเร็จ และดีที่สุด  เป็นปัจจัยที่ทำให้บริษัท มุ่งเน้น ที่การให้บริการ ก่อนและหลังการขาย ในทุกระดับให้เกิดความแตกต่างจากคนอื่น ในที่สุดเป็นที่ยอมรับของแวดวงไอทีในเมืองไทย เป็นผู้นำในการจัดจำหน่าย อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ประเภท Memory Module (RAM) สำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ทุกประเภทตั้งแต่ High-end server, Standard server, Workstation, Desktop, Notebook, Printer และ Router ในประเทศไทย
ชิตพงษ์ มุ่งมั่นในการขายสินค้าและบริการที่แตกต่างจากคนอื่นอย่างเห็นได้ชัด และมีแนวคิดในการตอบสนองผู้บริโภคในเรื่องของคุณภาพสินค้าในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับธรรมดา จนถึงระดับสูงสุดโดยใช้บริการเป็นตัวเชื่อมโยงความภักดีของผู้บริโภคให้กลับมาซื้อซ้ำ และบอกต่อ นี่จึงเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ธุรกิจของชิตพงษ์ เติมโตอย่างมั่นคงและรวดเร็ว

วรวิทย์ ศิริพากย์ เจ้าของ  Panpuri organic spa (ปัญญ์ปุริ ออร์กานิค สปา) เป็นคนหนุ่มรุ่นใหม่วัย  Generation Y   ที่โตมาพร้อมกับคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี เป็นวัยที่เพิ่งเริ่มเข้าสู่วัยทำงาน มีลักษณะนิสัยชอบแสดงออก มีความเป็นตัวของตัวเองสูง ไม่ชอบอยู่ในกรอบและไม่ชอบเงื่อนไข ต้องการความชัดเจนในการทำงานว่าสิ่งที่ทำมีผลต่อตนเอง และต่อหน่วยงานอย่างไร  อีกทั้งยังมีความสามารถในการทำงานที่เกี่ยวกับการติดต่อสื่อสาร และยังสามารถทำงานหลาย ๆ อย่างได้ในเวลาเดียวกัน(ความหมายของ Generation Y)
วรวิทย์ เริ่มต้นคล้ายกัน ด้วยครอบครัวมีมีพี่น้องหลายคน พ่อรับราชการ แม่ขายของ ส่งลูกเรียน วรวิทย์อาจจะแตกต่างจากคนอื่น เป็นคนขยันอ่านหนังสือเป็นคนเรียนเก่ง ค้นหาตัวเองพบว่าสิ่งที่ตัวเองมีอยู่มากมายและอยากค้นหาในโลกกว้างจึงสอบชิงทุน ไปเรียนต่อที่แคนนาดา กลับมาทำงาน และกลับไปเรียนต่อที่อิตาลี ด้านบริหารสินค้าฟุ่มเฟือย จุดหักเหของชีวิต เมื่อเกิดเหตุการณ์  9/11 และพบว่า งานที่ทำ และเงินที่ได้รับไม่ใช่คำตอบ ชีวิตคนเราสั้นเกินไปที่จะทำแบบเดิม ๆ จึงเริ่มมองหาธุรกิจที่ตัวเองชอบ มีฐานความรู้ ผนวกกับงานวิจัย จึงเป็นจุดเริ่มต้นของธุรกิจปัจจุบัน
ปัจจัยสู่ความสำเร็จ วรวิทย์ อธิบายว่า
ต้องการนำเสนอสินค้าที่เป็นเอกลักษณ์ ของกลิ่นอายของความเป็นตะวันออกมาเป็น “เสน่ห์” ของสินค้า (จุดเด่น และแตกต่าง) และประยุกต์ต่อยอด เป็น อโรม่าเธอราปี (Aroma therapy) ในแบบที่เป็นสไตล์ของตัวเอง และวางขายเฉพาะในห้างระดับบนเท่านั้นทั้งในประเทศและต่างประเทศเท่านั้น
แนวคิดในการสร้าง Connection ที่ดีกับโรงแรมระดับ5ดาว ทำให้สามารถต่อยอดขยายยอดขายไปยังสาขาในต่างประเทศของโรงแรมนั้น ๆได้ทั่วโลก และยังรับผลิตให้โรงแรมเหล่านั้น  และโรงแรมเหล่านั้นยังนำผลิตภัณฑ์ของเขามาใช้ เป็นการco-branding แบรนดของโรงแรมที่มีอายุยาวนานเป็นร้อยปี มีส่วนสำคัญอย่างมากในการผลักดัน แบรนดน้องใหม่อย่างปัญญ์ปุริ ให้เติมโตอย่างรวดเร็ว
ใช้วิธีการสื่อสารถึงลูกค้าด้วยกลยุทธ์ “Word of Mouth” ด้วยรูปแบบของสินค้าทำให้ ปัญญ์ปุริ ที่ไม่สามารถทำการตลาดแบบ above the line ได้มากนัก การสื่อแบบปากต่อปากเป็นวิธีการหนึ่งที่ถูกนำมาใช้ตั้งแต่แรก จนถึงปัจจุบัน
              วิธีการทำตลาด ไม่ยึดโมเดลของใครคนใดคนหนึ่งในการทำตลาด  แต่ใช้การมองจากมุมผู้บริโภค และมองจากตัวเองที่ใช้สินค้าเหล่านี้อย่างเหนียวแน่น เพราะเวลาที่ซื้อของ พยายามมองแบรนดแปลกๆ ที่มีดีไซน์ Product ซึ่งคนทั่วไปอาจจะยังไม่รู้จัก แต่มีคนกลุ่มหนึ่งรู้จักดีแล้ว มองว่าถ้าเป็นเรา จะรับสื่อจากด้านไหน สื่ออะไรที่เราเชื่อ อะไรที่ไม่เชื่อ จึงเกิดแนวคิดที่จะหาวิธีการพุดคุยกับกลุ่มลูกค้าเฉพาะเท่านั้น  และที่สำคัญ เหล่านี้มันเป็นทั้งศาสตร์และศิลปะ ที่ทำอย่างไรให้คนมีอารมณ์ร่วมไปกับสิ่งที่เราสื่อได้
                แนวคิดของการสร้างการบริการที่แตกต่าง วรวิทย์ มองว่า เรากำลังขายความรู้สึก ต้องการให้ลูกค้าได้ความรู้สึกที่ดีๆกลับไปด้วย ไม่ใช่ได้แต่ตัวสินค้าไปเท่านั้น ดังนั้น เขาจะขายบริการ ก่อน  แล้วการซื้อสินค้าจะเกิดขึ้นตามมา ไม่ใช่เน้นการขายสินค้าก่อน แล้วค่อยเกิดการบริการขึ้นภายหลัง
               เน้นสินค้าด้วยการดีไซน์ ที่ทำให้ทุกคนหันมามองอย่างสนใจ โดยใส่ใจ และให้ความสำคัญตั้งแต่ แผ่นโบชัวร์ที่มาเรื่องราวอันเป็นประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ โดยเริ่มจากจากสมุดข่อยโบราณ ลายไทยอันอ่อนช้อย และดอกบัวสีม่วงที่ประกอบสื่อถึงความเป็นเอเชีย การดีไซน์ถุงกระดาษ และ packaging ต่างๆ แม้แต่สี ที่ดึงเข้ามาสีสันในการตกแต่งร้านแต่ละแห่งก็ล้วนแล้วแต่มีเรื่องราวที่มีความหมายทั้งสิ้น  
การวาง Positioning ทางการตลาดของปัญญ์ปุริ ตั้งไว้ในระดับที่สูง จึงทำให้ไม่มีคู่แข่งในประเทศ ดังนั้น Benchmark ของการพัฒนาสินค้าจึงมีการแข่งขันกับสินค้าในระดับสากลเท่านั้น ทำให้ราคาสินค้าสูงขึ้นตามไปด้วย
กลุ่มเป้าหมายของ ปัญญ์ปุริ ในตลาดขายปลีก มุ่งที่ลูกค้าที่ต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีความเป็น Exclusive ต้องการใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อความผ่อนคลายหลังจากเหน็ดเหนื่อยจากการทำงาน ซึ่งเป็นคนกลุ่มนักธุรกิจ ผู้บริหาร ผู้จัดการ ที่ล้วนแต่ทำงานหนักและมีความเคร่งเครียดสูง แต่มีรายได้เพียงพอในการซื้อ
ม่งมั่นสร้างสินค้าให้มีจุดเด่นและมีดีไซน์ที่แตกต่าง ในบันจุภัณฑ์ที่สวยงามสะดุดตา ผ่านกระบวนการผลิตที่ประณีตพิถีพิถัน
 เมื่อมีเป้าหมายชัดเจนว่าจะเป็นแบรนด์หนึ่งของโลก รูปลักษณ์บรรจุภัณฑ์ที่ดูแปลกตา แม้ว่าวิธีการนี้จะเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและทำให้สินค้าใหม่ขายได้เฉพาะกลุ่มผุ้บริโภคที่เล็กลงไปอีก แต่เขามั่นใจว่าวันนี้ เดินมาถูกทาง และจะต้องยอมทำงานหนักขึ้น เพื่อความเติมโตในยุทธ์จักรของการแข่งขันในระดับโลกในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้อย่างแน่นอน
                บทสรุปจากการเสวนาในครั้งนี้ ผมเห็นว่านักธุรกิจ ทั้งสามรุ่น มีแกนหลักที่เหมือนและล้ายคลึงกัน โดย
เริ่มต้นจากนิสัย ทีมีความมุ่งมั่น ขยันอดทน ค้นหาสินค้าและบริการที่เยี่ยมยอด มี หัวใจบริการ ค้นหาองค์ความรู้เพื่อพัฒนาต่อยอดสินค้าและบริการอย่างต่อเนื่อง ใช้เทคโนโลยีสื่อสารอย่างชาญฉลาดและคุ้มค่าให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อตนเอง สินค้า บริการ องค์กร และผู้บริโภค ใส่หัวใจบริการในงานที่ทำ สร้างความสัมพันธ์เพื่อสร้างเครือข่ายธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคง

                ประกายฝันที่เกิดขึ้น จะสารต่อให้ไปสู่ความสำเร็จ ไม่ได้อาศัยพรสวรรค์ แต่อยู่ที่พรแสวง เฉกเช่นการเตรียมตัวเพื่อการแข่งขันกีฬา หากต้องการเอาชนะในกีฬาโอลิมปิก ต้องเตรียมตัว ทุ่มเท อดทน ฝึกซ้อมอย่างหนักในระดับโอลิมปิก  แต่หากจะแข่งขันและเอาชนะแค่ เอเชี่ยนเกม การเตรียมตัว ทุ่มเท อดทน ฝึกซ้อมก็จะอยู่แค่ในระดับเอเชี่ยนเกม หรือหากจะเตรียมตัวฝึกซ้อม เพื่อแข่งขันในระดับซีเกม ระดับกีฬาแห่งชาติ กีฬาจังหวัด กีฬาโรงเรียน ย่อมมีความแตกต่างในการฝึกซ้อม ทุ่มเท อดทนกันอย่างสิ้นเชิง ตั้งเป้าไว้ให้ไกล มุ่งมั่นไปให้ถึง แล้วประกายฝันนั้นจะเป็นจริง ดังที่นักธุรกิจรุ่นใหม่ อย่าง วรวิทย์ ศิริพากย์ ได้กล่าวไว้ในการเสวนาครั้งนี้...

..........................................................................................................

จุดไฟสร้างฝัน นักธุรกิจรุ่นใหม่

จุดไฟสร้างฝัน
นักธุรกิจรุ่นใหม่
........................................................................................................
โดย ดร.ชฎิล  นิ่มนวล
                อาทิตย์ที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๕๖ งานคืนสู่เหย้า ครบรอบ ๑๐ ปี AITM(Agro-Industrial Technology Management) ภาควิชาเทคโนโลยีอุตสาหกรรมเกษตร คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผมได้รับเชิญเข้าร่วมเสวนา “จุดไฟสร้างฝัน นักธุรกิจรุ่นใหม่” โดย ผศ.ดร.ปรารถนา  ปรารถนาดี หัวหน้าภาควิชา  ผศ.ดร.รวิพิมพ์ ฉวีสุข ผู้ดำเนินรายการ ผมได้รับเชิญ จาก อาจารย์ ดร.อัจฉรา เกษสุวรรณ  คุ้นเคยกันในฐานะเป็นคณะกรรมการสอบปกป้องวิทยานิพนธ์ หลักสูตรบริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิต  (บธ..)  สาขาวิชาบริหารธุรกิจ ภาคการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี  จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
                เสวนานี้ มีแขกรับเชิญ ๓ ท่าน เป็นเจ้าของกิจการที่ต่าง Generation กัน ผู้เข้าฟังเป็นนิสิตนักศึกษา ทั้งไทย และต่างชาติ ที่จบการศึกษาไปแล้ว รุ่นกำลังศึกษา รวมทั้งคณาอาจารย์ และผู้ที่สนใจ ผมเห็นว่ามีประโยชน์ จึงนำมาเล่าสู่กันฟัง เผื่อว่าใครจะมีประกายความฝันอยากก้าวสู่นักธุรกิจใหม่ จากนักธุรกิจรุ่นพี่ ที่มีความแตกต่าง และเหมือนกันอย่างไรนั้น ลองอ่านดูครับ...

ผมในฐานะเป็นผู้ประกอบการส่งออกพืชผักและผลไม้สดที่อยู่ในช่วง Baby Boomer ที่มีชีวิตเพื่อการทำงาน เคารพกฎเกณฑ์ กติกา อดทน ให้ความสำคัญกับผลงานแม้ว่าจะต้องใช้เวลานานกว่าจะประสบความสำเร็จ   อีกทั้งยังมีแนวคิดที่จะทำงานหนักเพื่อสร้างเนื้อสร้างตัว ทุ่มเทกับการทำงานและองค์กรมาก ไม่เปลี่ยนงานบ่อยเนื่องจาก มีความจงรักภักดีกับองค์กรอย่างมาก (ความหมายของคำว่า Baby Boomer)
หลายคนอาจจะมองว่าเป็นการขายฝัน หรือเพียงเพื่อเล่าประสบการณ์ ในแง่มุมที่เป็นบวก ขอบอกตรงนี้เลยว่า เส้นทางมิใช่เดินบนกลีบกุหลาบสวยงาม ราบรื่น กว่าจะถึงวันนี้ ต้องพานพบอุปสรรค์มากมาย ในแต่ละรูปแบบของธุรกิจ ปัจจัยเสี่ยง และปัญหาที่ต่างกรรมต่างวาระ ต้องอาศัยความพร้อมจริง ๆ( ความพร้อมประกอบด้วย ความสามารถ และความเต็มใจ ความสามารถประกอบด้วย ความรู้ ความเข้าใจ ทักษะ ประสบการณ์  และ ความเต็มใจ ประกอบด้วย  ความมั่นใจ ความมั่นคง ความผูกพัน แรงจูงในความสำเร็จ) และ คุณธรรม (องค์ประกอบของคุณธรรมที่สำคัญ คือ ความอดทน อดกลั้น มุ่งมั่น ขยัน ซื่อสัตย์ ประหยัด รับผิดชอบ เอาจริงเอาจัง)
ดังนั้นการเก็บเกี่ยวรายละเอียดของผู้เข้าฟัง แง่มุม ช่องว่าง ต้องใช้วิจารณญาณ ในการศึกษาให้ท่องแท้ ที่จะนำมาเป็นแนวทาง เป็นองค์ความรู้ใส่ในตัวเองให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะแต่ละช่วง แต่ละยุค แต่ละธุรกิจ และสินค้า ย่อมมีความแตกต่าง หลากหลายปัญหา อุปสรรค์ จนหลายคนท้อ ล้ม เลิก  ถึงอย่างไรก็ยังเหลือ คนที่ต่อสู้แก้ไขปัญหาและอุปสรรค์อย่างยิ่งยวด บนพื้นฐานขององค์ความรู้ที่ถูกบูรณาการอย่างประณีต ละเอียด รอบคอบ จนที่สุดหลุดพ้นเปาะปมแห่งอุปสรรค์ปัญหาเหล่านั้น  เราลองมาดูซิว่า คนเหล่านั้น มีปัจจัยสู่ความสำเร็จ (Key Success Factors) คล้ายกัน ที่พอจะนำมาเล่าสู่กันฟัง เพื่อเป็นแนวทางสร้างฝันการทำธุรกิจใหม่ได้ไม่มากก็น้อยครับ...
        จุดเริ่มต้นของผมอาจจะคล้ายกับอีกหลายคน ที่เริ่มต้นจากครอบเป็นคนต่างจังหวัด มีพี่น้องหลายคน พ่อแม่ไม่มีมรดก ทำสวนและค้าขาย หาเงินส่งให้ลูกเพื่อให้มีการศึกษาเป็นมรดกติดตัว การที่มีครอบครัวใหญ่ จึงจำเป็นต้องแสวงหารายได้ เพื่อเลี้ยงดูให้ครอบครัวอยู่รอด เรียกว่าปากกัดเท้าถีบ ขยัน อดออม อดทน ซื่อสัตย์ รับผิดชอบ เสมอภาคและยุติธรรม ที่มีกรอบของวินัยที่ทุกคนยึดปฏิบัติร่วมกันโดยที่พ่อเป็นผู้คุมกรอบวินัย หรือเรียกง่าย ๆ ว่า “กฎเหล็ก” นั่นเองครับ นี่เองเป็นปฐมบทให้นิสัยถูกหล่อหลอมมาจากพื้นฐานของครอบครัว ที่ซึมซับ และถูกนำมาใช้ในชีวิตประจำวันอย่างไม่รู้ตัว
ถามถึงจุดประกายเริ่มต้นของการทำธุรกิจ เมื่อทำงานประจำไปได้ระยะหนึ่ง งานที่ทำ เงินเดือนที่ได้รับกลับไม่ใช่คำตอบที่กำลังค้นหา รู้แต่เพียงว่า รูปแบบของงานที่ทำไม่ใช้ตัวตนของเรา ดังนั้นการแสวงหาความต้องการของตัวเองจึงเป็นจุดเริ่มต้นของการค้นหา ความต้องการมีอิสระทั้งแนวความคิด การทำงานที่ต้องการคำตอบที่มากกว่างานที่ทำปัจจุบัน คำตอบสุดท้ายของงานคืออะไร มิใช่แค่เพียงทำไปวัน ๆ แล้วกลับบ้าน ไม่สมกับความสามารถในตัวเราที่มีอยู่ นี่เองจึงเป็นสาเหตุสำคัญในการมองหาช่องทางที่จะโลดแล่นบนถนนของธุรกิจที่ปราศจากกรอบกติกา ท้าทายความสามารถ และไม่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่คนอื่นกำหนด แต่เราจะเป็นผู้กำหนดตัวเราเอง

เริ่มต้นมองหาธุรกิจที่ รัก ชอบ ถนัด คุ้นเคย เกี่ยวข้อง ใกล้ตัว จนรู้สึกได้ว่าซึมซับ เพราะมองเห็นโอกาสได้ง่ายกว่าธุรกิจไกลจากตัวเอง ยิ่งมองลึกยิ่งพบว่าใครคือผู้บริโภค บริโภคอะไร กลุ่มผู้บริโภคอยู่ที่ไหน จากนั้นจึงแสวงหาองค์ประกอบของความพร้อมทันที ค้นหาทั้งทางลึกและกว้าง สนใจอย่างจริงจัง เริ่มเข้าอบรม สอบถาม สังเกต อ่านงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง อย่างเมามัน ยิ่งค้น ยิ่งสนุก ยิ่งอ่านยิ่งพบสิ่งที่ตัวเองขาด ยิ่งสังเกตยิ่งเห็น และได้รับข้อมูลเพิ่มเติม สืบค้นงานวิจัยยิ่งเกิดความมั่นใจ เป็นมูลเหตุของการกล้าคิดกล้าทำ กล้าตัดสินใจมากขึ้น
การแสวงหาสินค้า เริ่มง่าย ๆ ดูสินค้าที่ตัวเองเห็นมากมายในท้องตลาด เกิดความคิดว่าจะทำอย่างไรให้มีคุณภาพมากกว่าที่มีอยู่ จะสร้างความแตกต่าง แตกต่าง และแตกต่างอย่างไรจากสินค้าชนิดเดียวกัน ค้นหาความต้องการของผู้บริโภคที่แท้จริงจากงานวิจัย ที่สามารถสืบค้นจาก Internet ดูมันทั้งโลก ดูทุกวัน ดูทุกเรื่องที่เกี่ยวข้อง
เริ่มเห็น เข้าใจ  และเริ่มใส่ใจกับความละเอียดประณีตที่จะใส่ลงไปในตัวสินค้า และบริการ เพื่อสร้างความแตกต่างในแนวทางงานวิจัยที่สนับสนุน สร้างกระแสด้วยคุณค่าของตัวสินค้าเอง ให้เกิดการบอกต่อ สร้างความต่อเนื่องด้วยการเชื่อมโยงการผลิตร่วมกันของ Supplier พัฒนาต่อยอดร่วมกันอย่างเปิดใจและจริงใจ เพื่อสร้างความรู้สึกพึงพอใจให้ ทีมงาน ผู้ผลิต และผู้บริโภค กว่าที่เขาเคยได้รับ คุ้มค่า ในราคาเป็นธรรม
สร้างความรู้สึกร่วมกันเพื่อให้เขาร่วมปกป้อง ส่งเสริม สนับสนุน สร้าง Connections สร้างระบบการตลาดแบบ ๓๖๐ องศาที่เกิดในทุกช่องทาง และทุกภาคส่วน ทั้งในและนอกองค์กร พัฒนาชิ้นงาน การบริหาร การควบคุม ดูแล อย่างใส่ใจ และอดทนรอความสำเร็จแม้ว่าจะนานแค่ไหนก็จะรอ
ในทิศทางที่แตกต่าง เป็นที่ปรึกษาของผู้บริโภค ไม่ใช่เพียงแค่นักขายเท่านั้น ให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางขององค์กร และเดินร่วมกัน เหล่านี้ถูกสร้างบนพื้นฐานของการมีส่วนร่วมอย่างจริงใจ ให้ทุกคนที่เกี่ยวข้อง เริ่มตั้งแต่ เกษตรกร ผู้รวบรวม องค์กร คนในองค์กร บริษัทขนส่ง ภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ผู้รับสินค้าปลายทาง จนถึงมือผู้บริโภคร่วมเดินไปพร้อมกันอย่างมั่นคงยั่งยืน นี่คือวิธีการ ตรรกะ และปรัชญาง่าย ๆในการทำธุรกิจของผมครับ...                                         
คุณ ชิตพงษ์ วีรวรรณภิญโญ ผู้นำ จำหน่ายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ประเภท Memory สำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ทุกประเภท ตัวแทนของ Generation X   พฤติกรรมชอบอะไรง่าย ๆ ไม่ต้องเป็นทางการ ให้ความสำคัญกับเรื่องความสมดุลระหว่างงานกับครอบครัว (Work – life balance)  มีแนวคิดและการทำงานในลักษณะรู้ทุกอย่างทำทุกอย่างได้เพียงลำพังไม่พึ่งพาใคร มีความคิดเปิดกว้าง พร้อมรับฟังข้อติติงเพื่อการปรับปรุงและพัฒนาตนเอง(ความหมายของ Generation X )
ชิตพงษ์  เริ่มต้นที่ มีการศึกษาดี มีตำแหน่งหน้าที่การงานดี มีเงินเดือนพอตัว แต่กลับค้นพบว่างานนี้ไม่ใช่ตัวตน จากนั้นจึงแสวงหาความรู้จากงานที่ตัวเองทำเพื่อเก็บสะสมข้อมูล ความรู้ ประสบการณ์ และเริ่มต้นทำธุรกิจที่ตัวเองถนัดอย่างระมัดระวัง รอบคอบ เริ่มจากธุรกิจเล็กใช้คนเพียง สอง สามคน ซื้อมาขายไปได้ระยะหนึ่ง จึงเกิดทักษะ และความชำนาญเริ่มขยายกิจการ เพิ่มขึ้น จนในที่สุดออกมาดำเนินธุรกิจอย่างเต็มตัว
บุคลิก ส่วนตัวของ ชิตพงษ์  มุ่งมั่น ขยัน และเอาจริงเอาจังกับงานที่ทำ จึงก่อให้เกิดนิสัยที่เมื่อทำสิ่งใดแล้วต้องทำให้สำเร็จ และดีที่สุด  เป็นปัจจัยที่ทำให้บริษัท มุ่งเน้น ที่การให้บริการ ก่อนและหลังการขาย ในทุกระดับให้เกิดความแตกต่างจากคนอื่น ในที่สุดเป็นที่ยอมรับของแวดวงไอทีในเมืองไทย เป็นผู้นำในการจัดจำหน่าย อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ประเภท Memory Module (RAM) สำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ทุกประเภทตั้งแต่ High-end server, Standard server, Workstation, Desktop, Notebook, Printer และ Router ในประเทศไทย
ชิตพงษ์ มุ่งมั่นในการขายสินค้าและบริการที่แตกต่างจากคนอื่นอย่างเห็นได้ชัด และมีแนวคิดในการตอบสนองผู้บริโภคในเรื่องของคุณภาพสินค้าในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับธรรมดา จนถึงระดับสูงสุดโดยใช้บริการเป็นตัวเชื่อมโยงความภักดีของผู้บริโภคให้กลับมาซื้อซ้ำ และบอกต่อ นี่จึงเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ธุรกิจของชิตพงษ์ เติมโตอย่างมั่นคงและรวดเร็ว

วรวิทย์ ศิริพากย์ เจ้าของ  Panpuri organic spa (ปัญญ์ปุริ ออร์กานิค สปา) เป็นคนหนุ่มรุ่นใหม่วัย  Generation Y   ที่โตมาพร้อมกับคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี เป็นวัยที่เพิ่งเริ่มเข้าสู่วัยทำงาน มีลักษณะนิสัยชอบแสดงออก มีความเป็นตัวของตัวเองสูง ไม่ชอบอยู่ในกรอบและไม่ชอบเงื่อนไข ต้องการความชัดเจนในการทำงานว่าสิ่งที่ทำมีผลต่อตนเอง และต่อหน่วยงานอย่างไร  อีกทั้งยังมีความสามารถในการทำงานที่เกี่ยวกับการติดต่อสื่อสาร และยังสามารถทำงานหลาย ๆ อย่างได้ในเวลาเดียวกัน(ความหมายของ Generation Y)
วรวิทย์ เริ่มต้นคล้ายกัน ด้วยครอบครัวมีมีพี่น้องหลายคน พ่อรับราชการ แม่ขายของ ส่งลูกเรียน วรวิทย์อาจจะแตกต่างจากคนอื่น เป็นคนขยันอ่านหนังสือเป็นคนเรียนเก่ง ค้นหาตัวเองพบว่าสิ่งที่ตัวเองมีอยู่มากมายและอยากค้นหาในโลกกว้างจึงสอบชิงทุน ไปเรียนต่อที่แคนนาดา กลับมาทำงาน และกลับไปเรียนต่อที่อิตาลี ด้านบริหารสินค้าฟุ่มเฟือย จุดหักเหของชีวิต เมื่อเกิดเหตุการณ์  9/11 และพบว่า งานที่ทำ และเงินที่ได้รับไม่ใช่คำตอบ ชีวิตคนเราสั้นเกินไปที่จะทำแบบเดิม ๆ จึงเริ่มมองหาธุรกิจที่ตัวเองชอบ มีฐานความรู้ ผนวกกับงานวิจัย จึงเป็นจุดเริ่มต้นของธุรกิจปัจจุบัน
ปัจจัยสู่ความสำเร็จ วรวิทย์ อธิบายว่า
ต้องการนำเสนอสินค้าที่เป็นเอกลักษณ์ ของกลิ่นอายของความเป็นตะวันออกมาเป็น “เสน่ห์” ของสินค้า (จุดเด่น และแตกต่าง) และประยุกต์ต่อยอด เป็น อโรม่าเธอราปี (Aroma therapy) ในแบบที่เป็นสไตล์ของตัวเอง และวางขายเฉพาะในห้างระดับบนเท่านั้นทั้งในประเทศและต่างประเทศเท่านั้น
แนวคิดในการสร้าง Connection ที่ดีกับโรงแรมระดับ5ดาว ทำให้สามารถต่อยอดขยายยอดขายไปยังสาขาในต่างประเทศของโรงแรมนั้น ๆได้ทั่วโลก และยังรับผลิตให้โรงแรมเหล่านั้น  และโรงแรมเหล่านั้นยังนำผลิตภัณฑ์ของเขามาใช้ เป็นการco-branding แบรนดของโรงแรมที่มีอายุยาวนานเป็นร้อยปี มีส่วนสำคัญอย่างมากในการผลักดัน แบรนดน้องใหม่อย่างปัญญ์ปุริ ให้เติมโตอย่างรวดเร็ว
ใช้วิธีการสื่อสารถึงลูกค้าด้วยกลยุทธ์ “Word of Mouth” ด้วยรูปแบบของสินค้าทำให้ ปัญญ์ปุริ ที่ไม่สามารถทำการตลาดแบบ above the line ได้มากนัก การสื่อแบบปากต่อปากเป็นวิธีการหนึ่งที่ถูกนำมาใช้ตั้งแต่แรก จนถึงปัจจุบัน
              วิธีการทำตลาด ไม่ยึดโมเดลของใครคนใดคนหนึ่งในการทำตลาด  แต่ใช้การมองจากมุมผู้บริโภค และมองจากตัวเองที่ใช้สินค้าเหล่านี้อย่างเหนียวแน่น เพราะเวลาที่ซื้อของ พยายามมองแบรนดแปลกๆ ที่มีดีไซน์ Product ซึ่งคนทั่วไปอาจจะยังไม่รู้จัก แต่มีคนกลุ่มหนึ่งรู้จักดีแล้ว มองว่าถ้าเป็นเรา จะรับสื่อจากด้านไหน สื่ออะไรที่เราเชื่อ อะไรที่ไม่เชื่อ จึงเกิดแนวคิดที่จะหาวิธีการพุดคุยกับกลุ่มลูกค้าเฉพาะเท่านั้น  และที่สำคัญ เหล่านี้มันเป็นทั้งศาสตร์และศิลปะ ที่ทำอย่างไรให้คนมีอารมณ์ร่วมไปกับสิ่งที่เราสื่อได้
                แนวคิดของการสร้างการบริการที่แตกต่าง วรวิทย์ มองว่า เรากำลังขายความรู้สึก ต้องการให้ลูกค้าได้ความรู้สึกที่ดีๆกลับไปด้วย ไม่ใช่ได้แต่ตัวสินค้าไปเท่านั้น ดังนั้น เขาจะขายบริการ ก่อน  แล้วการซื้อสินค้าจะเกิดขึ้นตามมา ไม่ใช่เน้นการขายสินค้าก่อน แล้วค่อยเกิดการบริการขึ้นภายหลัง
               เน้นสินค้าด้วยการดีไซน์ ที่ทำให้ทุกคนหันมามองอย่างสนใจ โดยใส่ใจ และให้ความสำคัญตั้งแต่ แผ่นโบชัวร์ที่มาเรื่องราวอันเป็นประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ โดยเริ่มจากจากสมุดข่อยโบราณ ลายไทยอันอ่อนช้อย และดอกบัวสีม่วงที่ประกอบสื่อถึงความเป็นเอเชีย การดีไซน์ถุงกระดาษ และ packaging ต่างๆ แม้แต่สี ที่ดึงเข้ามาสีสันในการตกแต่งร้านแต่ละแห่งก็ล้วนแล้วแต่มีเรื่องราวที่มีความหมายทั้งสิ้น  
การวาง Positioning ทางการตลาดของปัญญ์ปุริ ตั้งไว้ในระดับที่สูง จึงทำให้ไม่มีคู่แข่งในประเทศ ดังนั้น Benchmark ของการพัฒนาสินค้าจึงมีการแข่งขันกับสินค้าในระดับสากลเท่านั้น ทำให้ราคาสินค้าสูงขึ้นตามไปด้วย
กลุ่มเป้าหมายของ ปัญญ์ปุริ ในตลาดขายปลีก มุ่งที่ลูกค้าที่ต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีความเป็น Exclusive ต้องการใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อความผ่อนคลายหลังจากเหน็ดเหนื่อยจากการทำงาน ซึ่งเป็นคนกลุ่มนักธุรกิจ ผู้บริหาร ผู้จัดการ ที่ล้วนแต่ทำงานหนักและมีความเคร่งเครียดสูง แต่มีรายได้เพียงพอในการซื้อ
ม่งมั่นสร้างสินค้าให้มีจุดเด่นและมีดีไซน์ที่แตกต่าง ในบันจุภัณฑ์ที่สวยงามสะดุดตา ผ่านกระบวนการผลิตที่ประณีตพิถีพิถัน
 เมื่อมีเป้าหมายชัดเจนว่าจะเป็นแบรนด์หนึ่งของโลก รูปลักษณ์บรรจุภัณฑ์ที่ดูแปลกตา แม้ว่าวิธีการนี้จะเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและทำให้สินค้าใหม่ขายได้เฉพาะกลุ่มผุ้บริโภคที่เล็กลงไปอีก แต่เขามั่นใจว่าวันนี้ เดินมาถูกทาง และจะต้องยอมทำงานหนักขึ้น เพื่อความเติมโตในยุทธ์จักรของการแข่งขันในระดับโลกในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้อย่างแน่นอน
                บทสรุปจากการเสวนาในครั้งนี้ ผมเห็นว่านักธุรกิจ ทั้งสามรุ่น มีแกนหลักที่เหมือนและล้ายคลึงกัน โดย
เริ่มต้นจากนิสัย ทีมีความมุ่งมั่น ขยันอดทน ค้นหาสินค้าและบริการที่เยี่ยมยอด มี หัวใจบริการ ค้นหาองค์ความรู้เพื่อพัฒนาต่อยอดสินค้าและบริการอย่างต่อเนื่อง ใช้เทคโนโลยีสื่อสารอย่างชาญฉลาดและคุ้มค่าให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อตนเอง สินค้า บริการ องค์กร และผู้บริโภค ใส่หัวใจบริการในงานที่ทำ สร้างความสัมพันธ์เพื่อสร้างเครือข่ายธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคง

                ประกายฝันที่เกิดขึ้น จะสารต่อให้ไปสู่ความสำเร็จ ไม่ได้อาศัยพรสวรรค์ แต่อยู่ที่พรแสวง เฉกเช่นการเตรียมตัวเพื่อการแข่งขันกีฬา หากต้องการเอาชนะในกีฬาโอลิมปิก ต้องเตรียมตัว ทุ่มเท อดทน ฝึกซ้อมอย่างหนักในระดับโอลิมปิก  แต่หากจะแข่งขันและเอาชนะแค่ เอเชี่ยนเกม การเตรียมตัว ทุ่มเท อดทน ฝึกซ้อมก็จะอยู่แค่ในระดับเอเชี่ยนเกม หรือหากจะเตรียมตัวฝึกซ้อม เพื่อแข่งขันในระดับซีเกม ระดับกีฬาแห่งชาติ กีฬาจังหวัด กีฬาโรงเรียน ย่อมมีความแตกต่างในการฝึกซ้อม ทุ่มเท อดทนกันอย่างสิ้นเชิง ตั้งเป้าไว้ให้ไกล มุ่งมั่นไปให้ถึง แล้วประกายฝันนั้นจะเป็นจริง ดังที่นักธุรกิจรุ่นใหม่ อย่าง วรวิทย์ ศิริพากย์ ได้กล่าวไว้ในการเสวนาครั้งนี้...

..........................................................................................................